เราคือบริษัท บริการ การออกแบบระบบกราวด์ ติดตั้ง ดูแล ติดต่อ CSK 082-338-3810 เพื่อข้อมูลเพิ่มเติมและ ราคา เกี่ยวกับ ระบบไฟฟ้าอุตสาหกรรม ติดตั้ง ตรวจสอบ บริการแก้ไข ระบบไฟฟ้าโรงงาน ไฟฟ้าแรงสูง หม้อแปลงไฟฟ้า ตู้เมนไฟฟ้า ระบบแสงสว่าง ระบบป้องกันฟ้าผ่า ระบบป้องกันไฟไหม้ ระบบสายดิน ครบวงจร ในงานอุตสาหกรรม งานไฟฟ้า อุตสาหกรรม
ระบบกราวด์ (Grounding System) หรือระบบสายดิน เป็นส่วนสำคัญของระบบไฟฟ้าภายในอาคาร ที่ทำหน้าที่ป้องกันความเสียหายจากไฟฟ้ารั่ว การเกิดกระแสไฟฟ้าลัดวงจร หรือการเกิดฟ้าผ่า โดยการนำกระแสไฟฟ้าที่ไม่ต้องการหรืออันตรายลงสู่พื้นดินอย่างปลอดภัย ช่วยป้องกันอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้ใช้งานในอาคาร
ประเภทของระบบกราวด์
- ระบบกราวด์สำหรับไฟฟ้าภายในอาคาร (Electrical Grounding)
- ระบบนี้ทำหน้าที่ป้องกันอุปกรณ์ไฟฟ้าและสายไฟภายในอาคารจากไฟฟ้ารั่วหรือกระแสไฟฟ้าที่ไม่ต้องการ โดยจะมีการเชื่อมต่อส่วนที่เป็นโลหะของอุปกรณ์ไฟฟ้าและตัวนำไฟฟ้ากับระบบสายดิน
- ระบบกราวด์ฟ้าผ่า (Lightning Grounding)
- ระบบที่ใช้ในการป้องกันการเกิดความเสียหายจากฟ้าผ่า โดยใช้ระบบสายล่อฟ้า (Lightning Protection System) และระบบกราวด์ที่เชื่อมต่อกับตัวล่อฟ้าเพื่อกระจายกระแสฟ้าผ่าไปยังพื้นดิน
- ระบบกราวด์ป้องกันไฟฟ้าสถิต (Static Grounding)
- ระบบที่ใช้เพื่อป้องกันการสะสมของไฟฟ้าสถิตในอุปกรณ์หรือเครื่องจักร โดยมักใช้ในพื้นที่ที่อาจเกิดการระเบิดจากการสะสมของประจุไฟฟ้าสถิต
หลักการทำงานของระบบกราวด์
- ระบบกราวด์มีหน้าที่ ป้องกันไฟฟ้ารั่วและไฟฟ้าลัดวงจร โดยการเชื่อมต่ออุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชิ้นที่เป็นโลหะ (เช่น ตัวเครื่องใช้ไฟฟ้า, ตู้ไฟฟ้า) กับพื้นดิน ซึ่งทำให้กระแสไฟฟ้าที่ไม่ต้องการไหลลงไปในดินแทนที่จะไหลผ่านร่างกายของผู้ใช้
- ในกรณีที่เกิดไฟฟ้ารั่วหรือไฟฟ้าลัดวงจร ระบบกราวด์จะทำให้เกิดการตัดการจ่ายไฟ (โดยเบรกเกอร์) ในทันที เพื่อป้องกันอันตราย
- ระบบกราวด์ช่วย ลดความเสี่ยงจากการเกิดไฟฟ้าช็อต และช่วยให้อุปกรณ์ไฟฟ้าในอาคารทำงานได้อย่างปลอดภัย
ส่วนประกอบของระบบกราวด์
- สายกราวด์ (Grounding Conductors):
- สายที่เชื่อมต่อจากอุปกรณ์ไฟฟ้าหรือโครงสร้างโลหะในอาคารไปยังระบบสายดิน เพื่อทำการนำกระแสไฟฟ้ารั่วหรือกระแสที่ไม่ต้องการไปยังพื้นดิน
- สายกราวด์ต้องมีขนาดและวัสดุที่เหมาะสม เช่น สายทองแดง (Copper) หรืออลูมิเนียม (Aluminum)
- ระบบกราวด์ (Grounding Electrodes):
- อุปกรณ์ที่ใช้เชื่อมต่อกับพื้นดิน เช่น แท่งทองแดง หรือแผ่นโลหะที่ฝังลงไปในดิน
- มักจะใช้ แท่งทองแดง (Grounding Rod) ที่ฝังลงไปในดินอย่างน้อย 2 เมตร หรือใช้ แผ่นโลหะ (Ground Plate) หรือ แถบโลหะ (Ground Strip) ที่เชื่อมต่อกับพื้นดิน
- แผงกราวด์ (Grounding Busbar):
- จุดรวมการเชื่อมต่อของสายกราวด์จากส่วนต่าง ๆ ของอาคารไปยังระบบกราวด์หลัก
- อุปกรณ์ป้องกันไฟฟ้ารั่ว (Residual Current Device, RCD):
- ใช้ตรวจจับไฟฟ้ารั่วในวงจรและตัดการจ่ายไฟเมื่อกระแสไฟฟ้ารั่วไปยังพื้นดินเกินกว่าค่าที่กำหนด
การออกแบบระบบกราวด์ในอาคาร
การออกแบบระบบกราวด์ต้องคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ เพื่อให้ได้ระบบที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุด
- เลือกประเภทของระบบกราวด์:
- เลือกระบบกราวด์ที่เหมาะสมกับประเภทของอาคาร เช่น อาคารสูง อาคารพาณิชย์ หรือโรงงาน
- คำนวณค่าความต้านทานดิน (Earth Resistance):
- ระบบกราวด์ที่ดีต้องมีค่าความต้านทานดินต่ำ เพื่อให้กระแสไฟฟ้าไหลลงดินได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย
- ค่าความต้านทานดินที่แนะนำอยู่ในช่วง 1-10 โอห์ม
- จำนวนและตำแหน่งของอุปกรณ์กราวด์:
- ระบบกราวด์ควรใช้ หลายจุด เพื่อกระจายกระแสไฟฟ้าและลดความต้านทาน
- ควรติดตั้ง แท่งทองแดง หรือ แผ่นโลหะ ในตำแหน่งที่เหมาะสมกับโครงสร้างของอาคาร
- การเชื่อมต่อกราวด์กับอุปกรณ์ไฟฟ้า:
- การเชื่อมต่อสายกราวด์ต้องทำอย่างถูกต้องและมั่นคง เช่น ใช้ขั้วต่อที่ทนทานและป้องกันการหลวม
- การตรวจสอบระบบกราวด์:
- ควรตรวจสอบค่าความต้านทานดินอย่างสม่ำเสมอ และทำการซ่อมแซมหรือปรับปรุงเมื่อพบว่าไม่เป็นไปตามมาตรฐาน
มาตรฐานการออกแบบระบบกราวด์
- IEC 60364: มาตรฐานการติดตั้งระบบไฟฟ้าในอาคาร ซึ่งกำหนดข้อกำหนดเกี่ยวกับการกราวด์และการป้องกันไฟฟ้ารั่ว
- TIS 116-2549: มาตรฐานของประเทศไทยเกี่ยวกับการติดตั้งระบบกราวด์
- NFPA 70 (National Electrical Code): มาตรฐานไฟฟ้าแห่งสหรัฐอเมริกา ที่ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการติดตั้งระบบกราวด์
ข้อดีของระบบกราวด์
- ป้องกันอันตรายจากไฟฟ้าช็อต:
ช่วยลดความเสี่ยงจากไฟฟ้ารั่วที่อาจทำให้เกิดไฟฟ้าช็อต - เพิ่มความปลอดภัยให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้า:
ช่วยป้องกันอุปกรณ์ไฟฟ้าจากการได้รับความเสียหายเนื่องจากกระแสไฟฟ้าลัดวงจร - ป้องกันการเกิดไฟไหม้:
ลดโอกาสที่กระแสไฟฟ้าลัดวงจรจะก่อให้เกิดไฟไหม้ในอาคาร - ป้องกันอันตรายจากฟ้าผ่า:
ช่วยกระจายกระแสไฟฟ้าจากฟ้าผ่าลงดินอย่างปลอดภัย
ข้อเสียของระบบกราวด์
- การบำรุงรักษา:
ระบบกราวด์ต้องได้รับการบำรุงรักษาและตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้มีประสิทธิภาพ - ค่าใช้จ่ายในการติดตั้ง:
การติดตั้งระบบกราวด์ที่มีประสิทธิภาพต้องใช้วัสดุและอุปกรณ์ที่มีคุณภาพ ซึ่งอาจมีค่าใช้จ่ายสูงในระยะแรก
การออกแบบระบบกราวด์เป็นส่วนสำคัญในการป้องกันอันตรายจากไฟฟ้ารั่ว ฟ้าผ่า และไฟฟ้าลัดวงจร การออกแบบที่ดีต้องคำนึงถึงประเภทของอาคาร ค่าความต้านทานดิน และการตรวจสอบระบบอย่างสม่ำเสมอ เพื่อความปลอดภัยและความมั่นคงในการใช้งานไฟฟ้าภายในอาคาร
ความรู้ดีดีจาก การไฟฟ้า