หม้อแปลงไฟฟ้า มีหน้าที่

หม้อแปลงไฟฟ้า มีหน้าที่ หลักคือแปลงแรงดันไฟฟ้าจากระดับหนึ่งไปยังระดับอีกหนึ่งระดับในระบบไฟฟ้า หม้อแปลงไฟฟ้าทำหน้าที่เปลี่ยนแปลงแรงดันไฟฟ้าโดยไม่เปลี่ยนแปลงความถี่ของกระแสไฟฟ้า หม้อแปลงสามารถทำงานได้ทั้งในระบบไฟฟ้าสามเฟส (Three-phase) และระบบไฟฟ้าเดี่ยวเฟส (Single-phase) ตามความต้องการของระบบไฟฟ้าที่ใช้งานอยู่

หน้าที่ของหม้อแปลงไฟฟ้า ได้แก่:

1. แปลงแรงดันไฟฟ้า: หม้อแปลงสามารถแปลงแรงดันไฟฟ้าในระบบไฟฟ้าจากระดับสูงไปยังระดับต่ำหรือจากระดับต่ำไปยังระดับสูงตามความต้องการของระบบไฟฟ้า ตัวอย่างเช่น ในระบบไฟฟ้าสามเฟส หม้อแปลงสามารถแปลงแรงดันไฟฟ้าจากระดับเครื่องสู่ระดับอาคารหรืออุปกรณ์ที่ต้องการใช้ไฟฟ้านั้นๆ โดยรัศมีการแปลงแรงดันไฟฟ้าในหม้อแปลงไฟฟ้าเป็นเทียบเท่าของสัดส่วนระหว่างหม้อแปลงและวงจรโหลด
2. ปรับระดับแรงดัน: หม้อแปลงสามารถปรับระดับแรงดันไฟฟ้าตามความต้องการของระบบไฟฟ้า โดยการเปลี่ยนแปลงสัดส่วนหม้อแปลง ทำให้สามารถปรับระดับแรงดันไฟฟ้าเพื่อให้เหมาะสมกับอุปกรณ์หรือระบบที่ใช้งาน
3. แยกแยะและป้องกันความเสียหาย: หม้อแปลงไฟฟ้ายังสามารถแยกแยะและป้องกันความเสียหายในระบบไฟฟ้า โดยมีการติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันไฟฟ้าเพื่อป้องกันภาวะสั่นไหวไฟฟ้า (short-circuit) และภาวะต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นในระบบไฟฟ้า เช่น การรั่วไหลของกระแสไฟฟ้า การเกิดฟอกเลือดไฟฟ้า (arc flash) ฯลฯ
4. จัดการและรักษาอุณหภูมิ: หม้อแปลงไฟฟ้าแบบแห้งสามารถจัดการและรักษาอุณหภูมิภายในตัวของหม้อแปลง โดยมักจะมีระบบระบายความร้อนเพิ่มเติมเพื่อให้หม้อแปลงสามารถทำงานได้อย่างเป็นประสิทธิภาพสูงสุด ระบบระบายความร้อนนี้ส่วนใหญ่ใช้พัดลมระบายความร้อนหรือระบบระบายความร้อนอากาศ

รวมทั้งหม้อแปลงไฟฟ้ายังมีหน้าที่อื่นๆ เช่น ให้ความนิยมไฟฟ้าในระบบไฟฟ้าสูญเสียลดลง ปรับปรุงคุณภาพไฟฟ้า และลดสูญเสียพลังงานไฟฟ้าที่เกิดขึ้นในระบบไฟฟ้า ทำให้หม้อแปลงไฟฟ้าเป็นอุปกรณ์สำคัญในระบบไฟฟ้าที่ใช้งานในหลากหลายภาคส่วนของสถานที่และอุตสาหกรรมต่างๆ